การ PM ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ประจำปีนั้น มีความสำคัญอย่างมาก
ยกตัวอย่างว่า ถ้าไม่มีการ PM ระบบ แล้วเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้น
และตัวอุปกรณ์ตัวจับควัน จับความร้อน หรือจับเปลวไฟ ไม่ทำงาน
เนื่องจากสาเหตุต่างๆ เช่น อุปกรณ์เสียหาย สายไฟ ขาด สายสัญญาณ ขาด
หรือ ตู้คอนโทรลไม่ทำงาน ทำให้ไม่มีการแจ้งเตือน คนที่อยู่อาศัย ในอาคารทราบ
ว่ามีเหตุเพลิงไหม้ มีผลทำให้ ผู้คนอาจหนี้ไม่ทัน หรือ ดับเพลิงไม่ทัน
เพลิงก็จะลุกไหม้ ลุกลาม จนเป็นอันตรายต่อชีวิต และทรัพย์สินได้
มีรายละเอียดดังนี้
ตรวจสอบ ระบบการทำงานของตู้ควบคุม ก่อนทำการบำรุงรักษา โดยตรวจดูว่าตู้ควบคุมยังทำงานปกติ หรือไม่ อุปกรณ์ภายในตู้ควบคุม ยังอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน หรือไม่ หากพบว่า มีอุปกรณ์เสียหาย หรือ เสื่อมสภาพ ผู้รับจ้างจะแจ้งให้ทางผู้ว่าจ้างทราบ เพื่อทำการแก้ไข ต่อไป และเมื่อได้ทำการแก้ไขตู้ควบคุม ให้ทำงานได้ตามปกติ ผู้รับจ้างจะเริ่มทำความสะอาดอุปกรณ์
ตรวจสอบ ระบบสายไฟ และสายสัญญาณ ที่เดินไปยังอุปกรณ์ในระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ ว่ายังอยู่ในสภาพดี สามารถใช้งานได้ หากพบว่าสายไฟ และ สายสัญญาณดังกล่าวชำรุดไม่อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ผู้รับจ้าง จะแจ้งให้ผู้ว่าจ้างทราบ เพื่อให้ทางผู้ว่าจ้างแก้ไขต่อไป และ เมื่อได้ทำการแก้ไขให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ผู้รับจ้างจะเริ่มทำความสะอาดอุปกรณ์
ตรวจสอบอุปกรณ์ของระบบ พร้อมทำความสะอาดในแต่ละจุด
3.1 อุปกรณ์ตรวจจับควัน (Smoke Detector)
3.2 อุปกรณ์ตรวจจับความร้อน (Heat Detector)
3.3 อุปกรณ์แจ้งเหตุด้วยมือ (Manual Station)
3.4 อุปกรณ์กระดิ่งแจ้งเหตุ (Bell)
3.5 อุปกรณ์แสดงจุดเกิดเหตุ (Graphic Annunciator)
เมื่อทำการตรวจสอบ พร้อมทั้งได้ทำความสะอาด ตู้ควบคุม และ อุปกรณ์ของระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้เรียบร้อยแล้ว จะทำการทดสอบทั้งระบบอีกครั้ง โดยทำการทดสอบทีละโซน ว่าแต่ละโซนยังทำงานได้ตามปกติหรือไม่
นำส่งรายงาน การตรวจสอบอุปกรณ์ใน ระบบแจ้งเหตุเพลิงไหม้ แก่ผู้ว่าจ้าง หลังจากทำการบำรุงรักษาเรียบร้อยแล้ว ภายใน 15 วัน
Preventive Maintenance (PM) หมายถึง แผนงานการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน
ซึ่งมุ่งเป้าไปถึงการป้องกัน ไม่ให้เครื่องจักร หรือ ชิ้นส่วน อุปกรณ์ เสียหาย ระหว่างการทำงาน
การปรับแต่ง ให้เครื่องจักร ทำงานตามคำแนะนำของคู่มือ รวมทั้งการบำรุง และเปลี่ยนชิ้นส่วน อะไหล่ ตามกำหนดเวลา เช่น การเปลี่ยนลูกปืน ถ่ายน้ำมันเครื่อง อัดจารบี การหล่อลื่นโดยถูกวิธี
การบำรุงรักษาเชิงป้องกันนั้น รวมตั้งแต่ การทำความสะอาด ชิ้นส่วน อุปกรณ์ เป็นระยะ ๆ
การตรวจสอบค่าต่างๆ เช่น ค่าแรงดัน ค่าอุณหภูมิ ระยะความชิด ความห่างที่เหมาะสม
การดูแลเปลี่ยนชิ้นส่วน อุปกรณ์ หรือวงจรที่จะครบอายุการใช้งานทุกระยะด้วย
สมมุติว่า ไม่มีการ PM เครื่องจักร แล้วเกิดการเสียหาย ของเครื่องจักร ระหว่างการทำงาน
ทำให้ต้องหยุดสายการผลิต หรืออาจเกิดความเสียหายกับผลผลิตนั้นๆ ซึ่งจะมีผลเสียตามมามากมาย
การ PM ระบบอย่างสม่ำเสมอนั้น
นอกจากจะช่วยให้เครื่องจักร ไม่เสียหายระหว่างการทำงานแล้ว
ยังช่วยให้เครื่องจักร มีอายุยาวนานขึ้นอีกด้วย
เนื่องจากมีการตรวจสอบชิ้นส่วน อุปกรณ์ และ ทำความสะอาด
เมื่อพบว่าชิ้นส่วน อุปกรณ์ สึกหรอ ก็ต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนนั้นๆ ใหม่
การทำความสะอาด ชิ้นส่วน อุปกรณ์ ก็ช่วยให้ ชิ้นส่วน อุปกรณ์ สึกหรอ หรือ เสียหายช้าลง
สามารถยืดอายุการทำงานของเครื่องจักร
ป้องกันการชำรุดเสียหายระหว่างการใช้งาน
ลดเวลาที่หยุดชะงัก เนื่องจากเครื่องจักรชำรุด ระหว่างการผลิตลงได้
สร้างผลผลิตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
สามารถลดอุบัติเหตุ หรือ อันตราย เนื่องจากการชำรุดของเครื่องจักรลงได้
ทำได้ง่ายและสะดวกรวดเร็ว ไม่กระทบกับการผลิต เพราะมีกำหนดเวลา มีข้อมูล และ วิธีการทำงานพร้อมปฏิบัติงาน
ทำให้วางแผนได้ง่าย และทำให้สามารถใช้พนักงานซ่อมบำรุง ตลอดจนอุปกรณ์ และ เครื่องมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ลิขสิทธิ์ ©2024 A.M.N SYSTEM SERVICES AND SUPPLY - สงวนสิทธิ์ทุกประการ
เราาใช้คุกกี้ในการวิเคราะห์การเข้าชมเว็บไซต์และปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดีขึ้น เมื่อยอมรับการใช้งานคุกกี้ของเรา เราจะรวบรวมข้อมูลของคุณกับข้อมูลผู้ใช้อื่นๆ ทั้งหมด